วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ฉับโหยงชีวิต...ตอน พ่อของวิชัย

กลุ่มเมฆสีเทาจัดตั้งแต่บ่าย  รวมตัวกันไม่ทันกี่มากน้อยก็บดบัง
ท้องฟ้าของเมืองหลวงจนดำหนาทึบราวจะตกพลั่กลงมาทั้งก้อน    ลมพัดแรง
ขึ้นเรื่อยๆจนตีหน้าต่างไม้เก่าคร่ำบานพับขึ้นสนิมอยู่ปังๆ   วิชัยนั่งจมเก้าอี้โยก
เยกหน้าโต๊ะไม้ที่สุมรุมไปด้วยเอกสารและหนังสือจิปาถะตัวนั้นมาเป็นชั่วโมง
แล้ว   สายตาว่างเปล่าจับไปที่บางอย่างบนโต๊ะ   เสียงอู้ๆของลมและเสียง
ปึงปังเป็นระยะไม่ได้ดึงความสนใจให้เขาไปปิดหน้าต่างหรือแม้แต่จะเขยื้อน
กายสักนิด
                           
                             …พ่อเอ็งตายแล้ว  เผาวันอาทิตย์นี้…
        บางคำในจดหมายบ้าฉบับนั้นทำให้เขาอยากหยุดทุกอย่างไว้แม้แต่เวลา
เปล่า! เขาไม่ได้คิดจะหยุดหรือย้อนเวลาเพื่อแก้ไขหรือยับยั้งการตายของพ่อ
แต่วิชัยต้องการแค่เวลาในการทบทวนความรู้สึกตัวเองเท่านั้น
         พ่อตายแล้ว! วิชัยคิดแต่ประโยคนี้ซ้ำซาก   พ่อที่เคยทิ้งเขา ทิ้งแม่ และ
ทิ้งน้องๆเขาอีกสามคน    ทิ้ง5ชีวิตไว้ตั้งแต่เขายังเล็กแค่ชั้นป.4 ตอนนั้นวิชัย
คิดอยู่อย่างเดียวว่าพ่อทิ้งทุกคนไปเพราะพ่อไม่รักแม่   และไม่รักลูกๆอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นเขาก็ควรไม่ต้องรักพ่ออีกต่อไปเช่นเดียวกัน
                          
                         ไม่ใช่สิ! เขาควรเกลียดพ่อซะให้รู้แล้วรู้รอดต่างหาก
         
                      หลังจากพ่อของเขาหนีไป    แม่ต้องมาทำอาชีพหาบขนมขาย
ตามบ้านได้กำไรวันละ2-3ร้อยพอประทังไปวันๆ   คราวหนึ่งแม่ถูกหมากัดน่อง
ตอนที่หาบผ่านบ้านกำแพงสูงหลังนั้นจนเป็นแผลเหวอะ   เขาต้องหยุดโรงเรียน
มาขายขนมแทนแม่อยู่เป็นเดือนๆแต่ไร้วี่แววพ่อจะมาดูดำดูดีสักนิด
                         พ่อตายแล้ว   ตายอย่างอนาถา    หลังจากที่พ่อของวิชัยหนีไป
มีเมียใหม่ได้เกือบสองปี   ผู้หญิงคนนั้นเกิดโชคร้ายโดนไฟคลอกตายคาโรงแรม
เล็กๆในตัวจังหวัด   ศพเปลือยไหม้ไฟไปแค่ส่วนของท่อนบนเหลือแต่ท่อนล่าง
ให้เป็นที่อุจาดตา   ชาวบ้านซุบซิบกันว่านางมัวแต่หากางเกงจนหนีไฟไหม้ไม่ทัน
                    พ่อของเขาเสียใจมากกับอุบัติเหตุอนาถครั้งนั้น เพราะข้างศพเมีย
ใหม่ของตัวเองดันทะลึ่งมีศพผู้ชายเปลือยร่างล่อนจ้อนนอนหงิกงออยู่อีกศพหนึ่ง
                 
ตั้งแต่นั้นมาพ่อของวิชัยก็กินเหล้ามากขึ้นทุกวัน จนกลายเป็นไอ้แก่ขี้เมาประจำ
ท่ารถ    นางสำลีผู้เป็นแม่ของวิชัยพยายามไปหว่านล้อมให้กลับมาอยู่บ้าน
ด้วยสงสารคนเคยเป็นผัว แต่ญาติๆฝ่ายนางไม่ยอมให้ทำอย่างนั้นจนถึงกับจะ
ตัดพี่ตัดน้องกัน
แต่นางก็โดนผัวเก่าขี้เมาไถเงินไปซื้อเหล้าอยู่บ่อยๆ    บางครั้งวิชัยเห็นรอย
ฟกช้ำตามหัวตามตัวของแม่   เมื่อถามไถ่นางกลับไม่เคยบอกที่มาที่ไป
                 
                    ฝนตกแล้วราวกับฟ้ารั่ว   เสียงฝนข่มขืนความรู้สึกเขาเสียจริง
วิชัยไม่เคยชอบเลยเวลาฝนตก   มันเหมือนกับบีบให้เขาต้องอยู่ในกรงขังของ
ผีห่าซาตาน   แม้แต่ตอนนี้...เขาเริ่มรู้สึกปวดหัวตุ๊บๆขึ้นมาอีกแล้ว
พ่อของเขาก็ตายเพราะฝน   น้ำท่วมในตัวจังหวัดเมื่อหลายวันก่อนได้ถมร่าง
ชายแก่ขี้เมาไว้จนเกือบเปื่อย   มีคนไปพบศพลอยอืดอยู่ข้างรถขนขยะเทศบาล
ที่จมน้ำอยู่ครึ่งคัน   นั่นคือที่นางสำลีบอกมาคร่าวๆในจดหมาย
‘กลับมาเผาผีพ่อด้วยนะลูก..’นางย้ำมาอย่างนั้น    พ่อตายสองครั้งแล้วสินะ
ตายไปจากความรู้สึกเขามาแล้วและยังมาตายจากโลกของแม่อีกครั้งคราวนี้

         พรุ่งนี้เขาคงต้องลางานสัก2-3วัน   เพื่อไปงานศพพ่อตามคำขอของแม่
เพราะน้องๆของเขาไม่มีใครไปร่วมงานได้อีก    ทั้งสามลาโลกไปด้วยข้าวผัด
ผสมยาเบื่อหนูไปตั้งแต่เมื่อ7ปีก่อน         
 ..หึ หึ.. วิชัยแค่นหัวเราะเมื่อนึกถึงภาพในคืนนั้น    เสียดายนักที่แม่รอดมาได้   
แม้ว่าความตกใจอย่างหนักจะทำให้นางช็อคจนพูดไม่ได้มาตั้งแต่นั้นก็ตาม!!!